หนังสั้น เรื่อง กว่าคิดได้ก็สาย

http://www.youtube.com/watch?v=W_IpadiTg6c&feature=plcp&context=C3306f71UDOEgsToPDskL_s_xtqKP5upj2k6E_uoI8

กิจกรรมท้ายบทเรียน

“บุญคุณไหนไม่เท่าบุญคุณแม่  ที่มีแต่ความรักไม่รู้จักเหนื่อย
ท่านห่วงใยใส่ใจเราทุกเมื่อ”

1. ให้นิสิตเขียนค้นหาคำคม หรือสุภาษิต ที่เกี่ยวข้องกับวันแม่ เช่น พระคุณแม่  ทำความดีอย่างไรให้กับแม่

ตอบ  พ่อแม่ คำนี้มีความหมาย มีพระคุณมากมายหลายสถาน  พ่อกับแม่เป็นได้หลายประการเป็น ดวงมาลย์เป็นพระหมเป็นร่มไทร เป็นผู้ให้ กำเนิด เกิดลูกรัก เป็นผู้ให้ที่พัก พิงอาศัย
ทำความดีให้แม่ ดิฉันก็จะตั้งใจเรียน ขยันเพื่อนจะได้คะแนนดีๆให้ท่านภูมิใจเเละจะเป็นคนดีของท่าน จะเชื่อฟังเเละไม่ออกนอกลู้นอกทาง จะขยันเเละเรียนให้จบเพื่อจะมีความทำ จะไม่ทำให้ท่านลำบากใจ และจะดูแลท่านทุกเมื่อยามเจ็บป่วยหรือสุขสบายจะคอยดูแลท่านตลอดเวลา

แบบฝึกหัดการแต่งกาย

1. ประโยคที่ว่า “บุคลิกดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” นิสิตเห็นด้วยหรือไม่
ตอบ  เห็นด้วยค่ะ เพราะถ้าหุ่นดีเเล้วสวมใส่อะไรก็จะดูดีไปหมด

2. ถ้านิสิตเป็นคนมีรูปร่างอ้วนควรแต่งกายอย่างไร พร้อมภาพประกอบ
ตอบ สวมเสื้อผ้าที่เสริมไหล่
ควรเป็นเสื้อผ้าเนื้อเรียบ เบาบางเสื้อควรเป็นคอวี
ลายคั้งผ้าสีเข้ม ช่วยให้ดูผอม

3. ให้นิสิตเตรียมเนคไทมาคนละ 1 เนคไท เพื่อสอนและสอบการผูกเนคไทในสัปดาห์ถัดไป
4. ถ้านิสิตได้รับมอบหมายให้แต่งกายในวันเปิดตัวแถลงข่าว
วีดิทัศน์หนังสั้น นิสิตจะแต่งกายอย่างไร
ตอบ ควรที่จะแต่งกายที่สุดภาพ ไม่ก็สวมใส่ชุดนิสิตถูกระเบียบ สวมรองเท้าหุ้มส้นให้ดูเรียบร้อยสะอาด ให้เหมาะกับกาละเทศะของงาน

โปสเตอร์หนัง เรื่อง "กว่าคิดได้ก็สาย"

งาน ตัดต่อ เรื่องราวที่ฉันอยากเล่า

http://youtu.be/YMMuCNCBYWQ

งานภาพยนตร์เรื่องสั้น "กว่าคิดได้ก็สาย"

เเบบฟอร์มข้อมูล Design and Creative Presentation Short Film

        

ส่วนที่ 1 : ข้อมูลเบื้องต้น

1.1 ชื่อทีม

         - พลังปลวก

1.2 สมาชิกในทีม :

       - 1. นางสาว นัชจิรา ช่วงชิง 54430404

       - 2. นาย ภานุรุจ   รัตนมณี   54430410

       -  3. นายวีรวัฒน์ พยุงวงษ์      54430600

1.3 สถาบันการศึกษา

       - มหาวิทยาลัย บูรพา วิทยาเขต บางแสน

1.4 ชื่อผลงาน

       - กว่าจะคิดได้ก็สาย

ส่วนที่ 2 : รายละเอียดของผลงาน

2.1 ประเด็นที่สนใจนำเสนอและความสำคัญของปัญหา

     - เป็นปัญหาเกี่ยวกับ วัยรุ่นตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ชีวิตเปลี่ยนไป ตามความนิยมความโลภ หลงในสิ่งที่ตัวเองอยากได้อยากมี ปัญหาการมีแฟน การใช้ชีวิต การใช้จ่าย

2.2 แนวคิดในการนำเสนอ

       - นำเสนอเรื่องรางเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงชีวิต ในมหาวิทยาลัย ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นเมื่อเด็กบ้านนอกต้องมาใช้ชีวิตในกรุงเทพ ฯ ตัวคนเดียวว่าเธอจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ อยากให้วัยรุ่นทุกคนยั้งคิดอะไรก็จะทำตามใจตัวเองควรที่จะนึกถึงพ่อแม่เป็นที่หนึ่งว่าท่านรู้แล้วท่านจะรู้สึกยังไง ว่าท่านจะเสียใจแค่ไหนถ้ารู้ว่าเราทำตัวไม่ดี

2.3 กลุ่มเป้าหมาย

         - เด็ก กลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา

2.4 เเหล่งข้อมูลที่ใช้ค้นคว้าเเละอ้างอิง

         - สอบถามจาก อา

         - ดูจาก หนังสั้นใน เว็บไซต์ ใน www.google. com

“ภาพยนตร์สั้นที่ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม”              คุณธรรม หมายถึง สภาพคุณงามความดีทางความประพฤติและจิตใจ คุณธรรม คือจริยธรรมที่แยกเป็นรายละเอียดแต่ละประเภท เช่น เมตตา กรุณา เสียสละ ซื่อสัตย์ อดทน หากประพฤติปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ก็จะเป็นสภาพคุณงามความดีทางความประพฤติและจิตใจของผู้นั้น

        จริยธรรม หมายถึง ธรรมที่เป็นข้อประพฤติปฏิบัติ ศีลธรรม กฎศีลธรรม ประมวล กฎหมาย

ที่กลุ่มชนหรือสังคมหนึ่งๆ ยอมรับเป็นแนวควบคุมความประพฤติ เพื่อแยกแยะให้เห็นว่าอะไรควรหรือไม่ควร

โครงเรื่อง

ชื่อ ภาพยนตร์สั้น   “กว่าจะคิดได้ก็สาย”

ชื่อทีม พลังปลวก

สมาชิกในทีม         - 1. นางสาว นัชจิรา ช่วงชิง 54430404

                                - 2. นาย ภานุรุจ   รัตนมณี   54430410

                                -  3. นายวีรวัฒน์ พยุงวงษ์      54430600

ความยาว  8.50  นาที

โครงเรื่อง

             ณ  สถานีรถไฟ สุรินทร์ไปกรุงเทพฯ แม่คนหนึ่งกำลังส่งลูกสาวขึ้นรถไฟ แม่พูดว่า “ตั้งใจเรียนนะลูก” ลูกสาวพูดขึ้นเสียงว่า “โอ้ย แม่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก” ปรางเด็กบ้านนอกที่สอบติด มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ

            มหาวิทยาลัยกรุงเทพแห่งหนึ่ง ปรางใช้ชีวิตแบบเด็กบ้านนอกที่พึ่งเคยเข้ามากรุงเทพเป็นครั้งแรก แต่ปรางก็ปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนที่กรุงเทพได้เป็นอย่างดีไม่มีท่าทีว่าเป็นเด็กบ้านนอกเลยซักนิดเดียว ปรางได้อาศัยอยู่หอใน ของมหาวิทยาลัย      1เดือนผ่านไปสำหรับการใช้ชีวิตมหาลัยของปราง แม่ได้เขียนจดหมายหาปราง “ปรางลูกสบายดีไหม ลูกต้องตั้งใจเรียนนะจะได้ทำงานดี พ่อกับแม่จะทำงานเก็บเงินส่งลูกเรียนเอง ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอกลูก ทำหน้าที่ของลูกให้ดีนะ ยังไงก็เขียนจดหมายหาพ่อกับแม่บ้างนะลูก ดูแลตัวเองด้วยนะลูก พ่อกับแม่รักปรางนะ” ปรางอ่านจดหมายเสร็จก็รีบเก็บเข้าลิ้นชัก ปรางไม่ได้รู้สึกดีใจที่แม่ส่งจดหมายมาหาปรางเลย

            ช่วงปีใหม่ปรางได้เขียนจดหมายไปหาพ่อกับแม่  หลายวันต่อมาจดหมายได้ไปถึงบ้านพ่อแม่ปราง เสียงแม่ร้องเรียก “พ่อ พ่อ ดูนี่สิ ไอ้ปรางมันเขียนจดหมายมาหาเราด้วยพ่อ”   พ่อพูด “มันว่าไงบ้างล่ะแม่”   แม่ได้อ่านจดหมาย “พ่อแม่ปีใหม่นี้ ปรางไม่กลับบ้านหรอก ค่ารถมันแพงไว้กลับแล้วปรางจะเขียนไปบอกอีกที ปรางสบายดีแหละ แต่เรื่องเงินมันไม่พอใช้หรอกแม่ มันน้อย ปรางโตแล้วนะแม่เรียนมหาลัยแล้ว ปรางต้องใช้จ่ายเยอะ พ่อกับแม่ช่วยทำงานหาเงินมาให้ปรางด้วยนะ  จาก มะปราง” พ่อพูด “ลูกมันคงต้องใช้จ่ายเยอะ เราสองคนต้องช่วยกันทำงานให้หนักขึ้นแหละแม่”

            วันหนึ่งขณะที่ปรางนั่งคุยกับเพื่อนในมหาวิทยาลัย มีผู้หญิงสวยคนหนึ่งเดินผ่าน  เจี๊ยบหนึ่งในเพื่อนของปราง พูดขึ้นว่า “พวกแกเห็นจมูก ผู้หญิงคนนั้นไหมแก สวยมากนะ ฉันว่าไปทำมาว่ะ” เพื่อนๆของปรางก็พูดคุยกันถึงเรื่องทำศัลยกรรมสุดเสียงการสนทนา ปรางพูดขึ้นว่า “พวกแกถ้าฉันทำจมูกจะสวยไหม”  เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “สวยฉันว่าแกทำแล้วสวยแน่ปราง เพราะแกก็น่าตาดีอยู่นะ” ปรางพูดขึ้นว่า “แล้วมันจะเจ็บไหมพวกแก มันจะแพงมากไหมฉันไม่ค่อยมีเงิน”  เจี๊ยบรีบพูดเสริม “โธ่!! คุณเพื่อนค่ะ อยากสวยก็ต้องเจ็บสิค่ะ แพงฉันว่าไม่น่าแพงมากหรอกแถวนี้นะ 5,000-6,000 เท่านั้นแหละ” ปรางกับไปคิดถึงเรื่องทำจมูกอยู่หลายวัน  ปรางตัดสินใจเขียนจดหมายกับบ้าน “พ่อกับแม่ ค่าเทอมที่ต้องจ่ายออกแล้วนะ เมื่อไหร่พ่อกับแม่จะส่งเงินมาให้ปราง ช่วงนี้ปรางต้องทำรายงานต้องมีแต่ใช้จ่ายเยอะ ปรางไม่อยากอายเพื่อนไม่มีเงินจ่ายค่ารายงาน ขอเงินเพิ่มนะแม่”   ปรางคิดจะเอาเงินที่พ่อกับแม่ส่งให้เป็นค่าเรียนมาทำจมูก

            2 เดือนต่อมา เจี๊ยบพาปรางไปทำจมูกแถวย่านนั้น2อาทิตย์แล้วที่ปรางไม่ได้ไปเรียน เพื่อนๆต่างถามหาปราง เจี๊ยบพูดขึ้นว่า “เพื่อนสาวเราไปทำจมูกมาค่ะ แผลยังไม่หายเลยไม่มาเรียน พวกแกคอยดูนะสวยแน่ค่ะ” หลายวันต่อมาปรางได้มาเรียนตามปกติ เพื่อนต่างชมปรางว่าสวยขึ้น จมูกโด่งสวย ปรางรู้สึกว่าตัวเองสวยและมีความสุขมาก อีกหลายวันไม่นานนัก มีหนุ่มหล่อน่าตาดี เข้ามาจีบปราง บอยเป็นหนุ่มหล่อน่าตาดี ทางบ้านค่อยข้างมีฐานะ เป็นคนชลบุรี เพื่อนต่างยุให้ปรางคบหากับบอยเพราะบ้านบอยมีเงิน รวย แถมหล่อด้วย ปรางตัดสินใจคุยกับบอยอย่างจริงจัง ทั้งสองลองคบหาดูใจกันประมาณ 3 เดือนบอยกับปรางดูจะสนิทสนมกันมาก จนกระทั่งวันหนึ่ง ปรางและบอยได้ตัดสินใจที่จะย้ายหอมาอยู่ด้วยกัน โดยเธอไม่ได้บอกพ่อกับแม่หรือเพื่อนเลย ปรางได้อยู่กับบอย2คนที่หอใช้ชีวิตแบบอิสระ บอยให้เงินปรางใช้ไม่ขาดมือ เธอได้ใช้เงินซื้อของ   ที่ไม่จำเป็นเสื้อผ้ากระเป๋า ของเบรนเนมทุกอย่าง ตอนนี้ปรางไม่ได้คิดถึงพ่อกับแม่เลย เธอคิดว่าชีวิตนี้บอยให้ได้ทุกอย่าง  ปรางไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองใช้จ่ายกินอย่างฟุ่มเฟือย เธอรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้น เธอตัดสินใจกินยาที่เพื่อนเธอแนะนำ นั่นคือ ยาลดความอ้วน ปรางได้กินยาลดความอ้วนได้สักพักหนึ่ง เธอรู้สึกว่าผอมลง เพื่อนบางคนทักเธอว่าโทรมลงมากไม่ค่อยสวยเหมือนเมื่อก่อน โดยบอยเองก็รู้สึกอย่างนั้นด้วย บอยไม่ค่อยมีเวลาให้ปรางมากนักมักจะบอกว่ายุ่งไม่ไปขี้เกียจ จนบางครั้งบอกไม่กลับมาหอ จนปรางรู้สึกว่าบอยนอกใจ หมดรักในตัวปรางแล้ว ปรางเองรู้สึกเครียด ไม่ไปเรียน                                              

จนเจี๊ยบเพื่อนของเธอตัดสินใจโทรหาปราง “ปรางแกอยู่ไหนว่ะ ทำไมไม่มาเรียนบ้างเลย ฉันนึกว่าแกโดนไอ้บอยทิ้งแล้วไม่กล้ามาเรียนว่ะ เจี๊ยบขำ ฮ่าๆๆ” ปรางก็ได้แต่ตอบว่า “ไม่เป็นไรหรอกเจี๊ยบฉันแค่ป่วยนิดหน่อยเดี๋ยวหายฉันจะไปเรียนเอง” เจี๊ยบพูดว่า “ไม่โดนทิ้งก็ดีแล้ว เออแกแค่นี้แหละหายไวไวว่ะ ” เจี๊ยบวางสาย ปรางคิดมากกับคำพูดของเจี๊ยบ ได้แต่นอนร้องไห้ เก็บตัวไม่ค่อยมาเรียน ไม่กินข้าว ปรางคิดแต่เรื่องบอยกลัวบอยจะทิ้ง ปรางโทรไปหาบอยก็ปิดเครื่องหนี ทำให้เธอคิดมาก ปรางได้แต่คิดถึงพ่อกับแม่  พ่อแม่คือคนที่รักและเป็นห่วงปรางแต่ปรางไม่เคยที่จะคิดถึงและสนใจ  ปรางได้นอนพูดอยู่ในห้องคนเดียว “พ่อแม่จ๋า ปรางขอโทษ  ช่วยปรางด้วย ปรางรักพ่อกับแม่มาก ” ปรางเองก็ไม่มีโอกาสอีกต่อไปที่จะได้บอกรักพ่อกับแม่และขอโทษในสิ่งที่เธอทำลงไป

บทวีดิทัศน์ภาพยนตร์สั้นส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมเรื่อง  “กว่าจะคิดได้ก็สาย”

ความยาว 8.50 นาที                                                                                                                        ชื่อทีม   พลังปลวก   (กลุ่มละ 3 คน)

ผู้เขียน   นางสาว นัชจิรา ช่วงชิง

       1.  แม่พูดว่า  “ตั้งใจเรียนนะลูก”

         2. ลูกสาวพูดขึ้นเสียงว่า  “โอ้ย แม่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”

         3. เสียงแม่ร้องเรียก “พ่อ พ่อ ดูนี่สิ ไอ้ปรางมันเขียนจดหมายมาหาเราด้วยพ่อ” 

         4 .พ่อพูด “มันว่าไงบ้างล่ะแม่”  

         5.พ่อพูด “ลูกมันคงต้องใช้จ่ายเยอะ เราสองคนต้องช่วยกันทำงานให้หนักขึ้นแหละแม่”

         6.เจี๊ยบ พูดขึ้นว่า “พวกแกเห็นจมูก ผู้หญิงคนนั้นไหมแก สวยมากนะ ฉันว่าไปทำมาว่ะ”

         7.ปรางพูดขึ้นว่า “พวกแกถ้าฉันทำจมูกจะสวยไหม” 

         8.เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “สวยฉันว่าแกทำแล้วสวยแน่ปราง เพราะแกก็น่าตาดีอยู่นะ”

         9.ปรางพูดขึ้นว่า “แล้วมันจะเจ็บไหมพวกแก มันจะแพงมากไหมฉันไม่ค่อยมีเงิน”

         10.เจี๊ยบพูด “โธ่!! คุณเพื่อนค่ะ อยากสวยก็ต้องเจ็บสิค่ะ แพงฉันว่าไม่น่าแพงมากหรอกแถวนี้นะ 5,000-6,000 เท่านั้นแหละ”

         11.เจี๊ยบพูดขึ้นว่า “เพื่อนสาวเราไปทำจมูกมาค่ะ แผลยังไม่หายเลยไม่มาเรียน พวกแกคอยดูนะสวยแน่ค่ะ”

         12.เจี๊ยบพูด “ปรางแกอยู่ไหนว่ะ ทำไมไม่มาเรียนบ้างเลย ฉันนึกว่าแกโดนไอ้บอยทิ้งแล้วไม่กล้ามาเรียนว่ะ เจี๊ยบขำฮ่าๆๆ”

         13.ปรางก็ได้แต่ตอบว่า “ไม่เป็นไรหรอกเจี๊ยบฉันแค่ป่วยนิดหน่อยเดี๋ยวหายฉันจะไปเรียนเอง”

         14.เจี๊ยบพูดว่า “ไม่โดนทิ้งก็ดีแล้ว เออแกแค่นี้แหละหายไวไวว่ะ ”

         15.ปรางพูด “พ่อแม่จ๋า ปรางขอโทษ  ช่วยปรางด้วย ปรางรักพ่อกับแม่มาก ”

จัดทำโดย

นางสาว นัชจิรา ช่วงชิง 54430404

นาย ภานุรุจ   รัตนมณี   54430410

นายวีรวัฒน์ พยุงวงษ์      54430600